i-mode™ เป็นบริการอินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่ ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งถูกพัฒนาโดย บริษัท NTT DoCoMo เป็นบริการที่ปฏิวัติวงการธุรกิจและการใช้ชีวิตส่วนตัวของคนในประเทศญี่ปุ่น เริ่มเปิดตัวขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1999 โดย มียอดผู้ใช้บริการ มากกว่า 53 ล้าน เครื่อง ในญี่ปุ่น (ณ มีนาคม 2008) และ ปัจจุบันมีมากกว่า 280 ล้านเครื่อง จากทั่วโลก (ณ มีนาคม 2010 ) i-mode™ เป็นเทคโนโลยีไร้สายที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือ มีพื้นฐานจากเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแพกเกต ซึ่งหมายความว่า i-mode จะทำงานอยู่ตลอดเวลา และดังนั้นคุณจะเสียค่าบริการตามข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเวลาที่ออนไลน์ คุณสามารถใช้ i-mode เพื่อแลกเปลี่ยนอีเมล์กับคอมพิวเตอร์, PDA, และโทรศัพท์อื่นที่ใช้ i-mode
เทคโนโลยีปัจจุบัน ของ I-mode
I- mode ได้มีพัฒนาการตกแต่งภาษา โดยเรียกว่า iHTML นั้นก็ คือ CHTML (Compact Hypertext Markup Language) ซึ่งเป็นส่วนย่อยของ HTML มาตรฐานในการแปลง HTML เว็บไซต์ที่มีอยู่ I- mode จะทำการเปลี่ยนแปลง HTML โดยใช้เวลา เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้การใช้งาน เว็ปไซด์บน I – mode ทำได้สะดวกและรวดเร็ว เนื่องจาก โทรศัพท์มือถือในยุคแรกยังเป็นจอขาวดำ มีระบบความจำน้อย มี หน้าจอมีขนาดเล็ก ความละเอียดประมาณ 128 x 128 ถ้าเปรียบเทียบกับ PC ที่มี ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768
ตัวอย่าง Application Alliance Partners
• Mobile Banking Service เช่น Sakura Bank , Sanwa Bank , SumitomoBank , CITIBANK
• บริการบัตรเครดิต เช่น DC Card , Sumitomo VISA Card , JCB Card , Million Card
• บริการสายการบิน ท่องเที่ยว จองตั๋วเครื่องบิน เช่น JapanAirlines (JAL) , All Nippon Airways (ANA), Japan Air System (JAS) , Northwest Airlines (NWA) , JTB (Japan Travel Bureau) , Lawson Ticket (Online Booking, Searching Concerts) , Ticket Saison (Searching Concerts, Telephone Booking)
• บริการข่าว/ข้อมูลต่าง เช่น CNN ,Bloomberg ,Dow Jones , Asahi Shimbun ,NIKKEI Newspaper , Yomiuri Shimbun , Weathernews , NHK , Nikkei BP
I-mode ในยุค 3G บริษัท NTT DoCoMo ได้มีการพัฒนาระบบโทรศัพท์ แบบ 3G โดย เรียกบริการว่า FOMA ( Freedom Of Mobile multimedia Access ) การใช้งานในแถบความถี่ 2 GHz ใช้ข้อมูลการโอน packet ความเร็วตั้งแต่ 64 kbps ถึง 384 kbps การสนับสนุนที่หลากหลายครอบคลุมการใช้งานที่มีอินเทอร์เน็ต, อีเมล์, การถ่ายโอนแฟ้มเข้าสู่ระบบในระยะไกลและ Internet การใช้งานโทรศัพท์ นอกจากนี้ ยังมีบริการ ISDN (Integrated Services Digital Network) เพื่อรองรับการใช้งาน โทรศัพท์ การประชุมผ่านวีดีโอ เป็นต้น นอกจากคุณภาพบริการเสียงที่ได้ถึง 12.2 kbps นอกจากนี้ยังมี ให้บริการที่ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยี
- WCDMA ( Wideband Code-Division Multiple Access ) เป็นเทคโนโลยี CDMA ที่มีมาตรฐานตามข้อกำหนดของ ITU และเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อว่า IMT-2000 WCDMA เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารระบบไร้สายในยุคที่ 3 และมีประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลแบบไร้สายผ่านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไร้สายความเร็วสูง โดยมีประสิทธิภาพการทำงานเหนือกว่าเทคโนโลยีทั่วไปที่ใช้ในตลาดในปัจจุบัน WCDMA มีประสิทธิภาพในการสื่อสารรับส่งสัญญาณเสียงภาพข้อมูลและภาพวิดีโอด้วย ความเร็วสูงถึง 2 เมกกะบิตต่อวินาที แต่สำหรับการให้บริการในปัจจุบันความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 384 กิโลบิตต่อวินาที โดยสัญญาณขาเข้าจะถูกแปรเป็นสัญญาณดิจิตอลและส่งไปเป็นรหัสผ่านแถบคลื่นสัญญาณกระจายไปสู่คลื่นความถี่ต่างๆ ผู้ให้บริการเทคโนโลยีนี้จะใช้แถบคลื่นสัญญาณที่ 5 MHz ซึ่งต่างจากผู้ให้บริการที่ให้บริการเทคโนโลยี CDMAในย่านความถี่แคบที่ใช้ช่องสัญญาณที่ 1.25 MHz NTT DoLoMo เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดให้บริการ WCDMA ในเชิงพาณิชย์ ในปี 2001
- HSDPA (High Speed Downlink Packet Access) ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง1.8 - 14.4 Mbps เป็นเทคโนโลยีได้รับการพัฒนา ต่อ จาก WCDMA โดย NTT DoCoMo ได้เริ่มพัฒนา HSDPA ในปี 2002 และได้มีการเริ่มทดสอบในการใช้งาน ในกลางปี 2004 เพื่อเป็นการยืนยันการใช้งานลักษณะพื้นฐานและการเชื่อมต่อคุณภาพของสัญญาณ โดยในการพัฒนาเทคโนโลยีได้ ร่วมมือกับFujitsu, Motorola และ NEC โดยการใช้ โทรศัพท์มือถือของค่าย NEC เป็นต้นแบบ ด้วยความเร็ว downlink สูงสุด 3.6 Mbps ในการพัฒนานี้ เป็นก้าวสำคัญต่อการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือในยุค 4G ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถือเป็นบทบัญญัติแรกของ เทคโนโลยี ยุค 3.5G ซึ่งเป็นการให้บริการโทรศัพท์ มือถือ ที่มีความสามารถในการดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมากด้วยความเร็วสูง โดย NTT DoCoMo เปิดให้บริการ HSDPA อย่างเป็นทางการ ใน ปลายเดือน สิงหาคม 2006
- LTE ( Long Term Evolution ) เป็นหนึ่งมาตรฐานจากกลุ่ม The Third Generation Partnership Project (3GPP) เพื่อกำหนดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดย NTT DoCoMo ได้มีการเปิดตัว LTE ภายใต้ ชื่อว่า Super 3G ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น ยุค 3.9 G ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานที่จะก้าวนำไปสู่ระบบเทคโนโลยีเคลื่อนที่ ยุค 4G ทางเทคนิค LTE ถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานของ GSM,GPRS , EDGE และ WCDMA รวมถึง HSPA อีกด้วยจึงเป็นการวิวัฒนาการที่ต่อเนื่องเพื่อรองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงและ Latency ที่ต่ำลง (เพื่อให้บริการที่มีลักษณะ delay sensitive services) นอกจากในมุมของผู้ให้บริการที่จะได้ใช้บริการที่หลากหลายมีสีสันมากขึ้น แล้วยังเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ช่องความถี่ที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งทำให้สามารถให้บริการหลากหลายมากขึ้นอาทิเช่นเกมส์แบบ real-time , VoIP , VDO conference ด้วยภาพคุณภาพ สูงรวมถึงบริการ real-time อื่นๆ LTE ที่ช่องความถี่ 20 MHz สามารถดาวน์โหลดได้สูงถึง 300 Mbps และ อัพโหลดได้มากถึง 75Mbps NTT DoCoMo ได้เริ่มมีการพัฒนา LTE ในปี ปลายปี 2006 และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2010 ที่ผ่านมา ทางบริษัทจะเริ่มการทดสอบเครือข่ายสำหรับบริการ FDD (Frequency Division Duplex) LTE (Long Term Evolution) ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทางบริษัทจะเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคมปีนี โดยมีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบคุณภาพของการสื่อสาร เช่น ความเร็วและความหน่วง (delay) ในการส่งข้อมูล ความเสถียรของการสื่อสารของอุปกรณ์ที่กำลังเคลื่อนที่ ในการทดสอบครั้งนี้ NTT DoCoMo จะใช้ความถี่ที่ 2 GHz โดยเริ่มจากการใช้ช่วงความถี่ขนาด 5 MHz บริษัทจะตรวจสอบข้อมูลในการสื่อสารสำหรับความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 37.5 Mbps และความเร็วในการอัพโหลดที่ 12.5 Mbps หลังจากนั้นจะขยายช่วงความถี่สำหรับทดสอบไปที่ขนาด 10 MHz และใช้ความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 75 Mbps และความเร็วในการอัพโหลดที่ 25 Mbps โดยในการทดสอบทั้ง 2 ครั้งจะใช้ระบบ 2 x 2 MIMO (Multiple Input Multiple Output) ในการดาวน์โหลด NTT DoCoMo ยังเผยอีกด้วยว่า จะใช้เสาสัญญาณที่ได้สร้างไว้สำหรับบริการ WCDMA ที่มีอยู่แล้วมาใช้สำหรับเครือข่าย LTE นี้ แต่บริษัทจะเปลี่ยนรุ่นสำหรับอุปกรณ์ RRE (Remote Radio Equipment) เป็นรุ่นที่สามารถใช้ได้ทั้ง WCDMA และ LTE รวมทั้งจะเพิ่ม BBUs (Baseband Units) สำหรับ LTE เข้าไปใน BBUs เดิม โดยทางบริษัทได้เริ่มดำเนินการ สำหรับ RRE ไปแล้วในปี 2009 และ สำหรับ BBUs ในปี 2010 ซึ่งมาตรการที่ใช้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการเปิดบริการ LTE
- 2D บาร์โค้ด I-mode ได้เพิ่มความสะดวกสะบายแก่ ผู้ใช้บริการ โดยมีการใช้ 2D บาร์โค้ด ผู้ใช้สามารถทำการสแกน บาร์โค้ด โดยการใช้กล้องโทรศัพท์มือถือ เพียงแค่สแกนบาร์โค้ด 2D เท่านั้น ระบบจะทำการลิงค์ไปหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล หรือว่าข้อมูลบนเวปไซด์ได้ทันที
เทคโนโลยีอนาคต ของ I-mode
บริษัท NTT DoCoMo ได้ทำการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี มาโดยตลอดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในเรื่องของอุปกรณ์ โดยการใช้เสาสัญญาณที่มีอยู่เดิม และเปลี่ยนแค่อุปกรณ์เชื่อมต่อบางชิ้นเท่านั้น เพื่อเข้าสู่ใน ยุค 4G ซึ่งเป็น เป็นยุคแห่ง Mobile Commerce การธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบโทรศัพท์ เคลื่อนที่ความเร็วสูง ที่มีความปลอดภัยในเรื่องการจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า
NTT DoCoMo ได้มีการพัฒนา ในเรื่องของ บาร์โค้ดเสียง Audio Barcode โดยการใช้คลื่นเสียงผ่านเข้าระบบซอฟท์แวร์อัจฉริยะ ในการวิเคราะห์คลื่นเสียง โดยใช้เทคนิค Orthogonal Frequency Division Multiplexing ( OFDM ) เพื่อเข้ามาปรับคลื่นเสียง และเพื่อใช้ในพัฒนาในทางเชิงพาณิชย์ ต่อไป
ระบบแสดงผลแบบ 3มิติ NTT CoDoMo เพื่อเพิ่มประสิทธิในการเล่นเกมส์บนโทรศัทพ์มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ เป็นการแสดงผล 3D แบบพกพา ที่ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถ ชมภาพแบบ 3D โดยไม่ต้องสวมแว่นแบบสามมิติ ในการแสดงการแสดงภาพนั้นผู้ใช้บิรการต้องมีการลงทะเบียนกับทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ก่อน แสดงการพัฒนาล่าสุด ช่วยให้วัตถุเปลี่ยนแบบไดนามิกเพื่อให้ตรงกับมุมมองของผู้สังเกตการณ์และ 3D
การให้บริการ ของ I-Mode
Osaifu – Keitai การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเป็นกระเป๋าเงิน
Videophone ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่น่าตื่นเต้นที่สุดของ 3G โทรศัพท์มือถือสามารถใช้ได้เกือบทุกรุ่นของ FOMA สามารถรองรับ Videophone ได้ชัดเจนแม้ว่าจะจะมีการใช้งานอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบัน I-mode ได้เป็นที่ยอมรับมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ในยุโรป เช่น ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันนี เนเธอร์แลนด์ ในเอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง เวียดนาม สิงค์โปร์ ฟิลิปปินส์ ในอเมริกาเหนือ ได้แก่ นิวยอกซ์ วอชิงตัน ดี ซี และ กำลังเปิดตัวใน ประเทศออสเตรเลีย NTT DoCoMo ยังได้มีศูนย์พัฒนาวิจัยอยู่ ในประเทศเยอรมันนี จีน และ แคลิฟอร์เนีย อีกด้วย เพื่อการพัฒนาระบบให้มีความมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ในญีปุ่น หรือ นอกประเทศญีปุ่น
แหล่งที่มา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น